ประเด็นร้อน

ผอ.พศ.แจ้งแล้ว ให้เอาผิดอีก 7

โดย ACT โพสเมื่อ Apr 23,2018

- - สำนักข่าวไทยรัฐ - -

 
กรณีตำรวจกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.)ลุยตรวจสอบคดีทุจริตเงินทอนวัดพบการทุจริตงบอุดหนุน 3 ประเภทคือ 1.เงินอุดหนุนบูรณะปฏิสังขรณ์และพัฒนาวัด 2.เงินอุดหนุนส่งเสริมการเผยแผ่พระพุทธศาสนา และ 3.เงินอุดหนุนการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรมและแผนกบาลี ความเสียหายกว่า 141 ล้านบาท มีผู้เกี่ยวข้องเข้าข่ายความผิดหลายระดับ รวมทั้งอดีต ผอ.พศ.เจ้าหน้าที่ พศ.และพระหลายรูป ล่าสุดพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.)เข้าแจ้งความร้องทุกข์ บก.ปปป.ดำเนินคดีพระชั้นผู้ใหญ่อีก 5 รูป กรณีทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนปริยัติธรรมและจะเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์เอาผิดพระผู้ใหญ่อีก 7 วัด แต่มีข่าวรั่วออกมาเสียก่อนผอ.พศ.จึงขอเลื่อนเข้าแจ้งความร้องทุกข์ไม่มีกำหนดท่ามกลางกระแสข่าวความไม่พอใจของคณะสงฆ์และลูกศิษย์ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

 

ความคืบหน้าจาก บก.ปปป. เมื่อเวลา 21.00 น. วันที่ 22 เม.ย. มีรายงานข่าวว่า พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เดินทางมาแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษคดีเงินทอนวัด เอาผิด 7 วัดที่เหลือลอตที่ 3 หลังบก.ปปป.ตรวจสอบพบว่าเกี่ยวข้องการทุจริตงบการศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา แผนกธรรม แผนกบาลี และงบเผยแผ่ศาสนา ตั้งแต่เมื่อค่ำวันที่ 19 เม.ย.ส่วนวัดทั้ง 7 แห่งที่ ผอ.พศ.มาแจ้งความดำเนินคดีรอบนี้เป็นวัดที่อยู่ในพื้นที่ต่างจังหวัดและวัดในเขตปริมณฑล ไม่มีวัดใหญ่ชื่อดังในกรุงเทพฯเหมือนกับที่มีกระแสข่าวมาก่อนหน้านี้ ส่วนพระที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตลอตนี้ ไม่มีพระชั้นผู้ใหญ่เหมือน 3 วัดก่อนหน้านี้หลังจากนี้พนักงานสอบสวน บก.ปปป.จะนำสำนวนการสอบสวนดังกล่าวส่งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ชี้มูลความผิดตามขั้นตอน เวลา 10.00 น. วันที่ 23 เม.ย.นี้

 

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ส่งข้อความผ่านกลุ่มไลน์ของคณะสงฆ์และองค์กรพุทธระบุว่านายจรูญ วรรณกสิณานนท์ ผู้แทนกลุ่มชาวพุทธพลังแผ่นดิน เข้ายื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช.กล่าวโทษการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ระบุว่าตามที่ผอ.พศ.คือพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์แจ้งความร้องทุกข์ต่อกองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) เมื่อวันที่ 11 เม.ย.กล่าวหาพระผู้ใหญ่ 5 รูป มีส่วนร่วมการทุจริตเงินทอนวัดมี 3 รูป เป็นกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) จากการตรวจสอบอำนาจหน้าที่ของ ผอ.พศ.ตามกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ 2557 ไม่ปรากฏว่ามีข้อใดให้อำนาจผอ.พศ.กระทำการตรวจสอบ ตรวจค้นและดำเนินคดีแก่คณะสงฆ์ได้ และจากการตรวจสอบมติ ครม.พบว่าไม่มีมติ ครม.ใดให้อำนาจผอ.พศ.แจ้งความร้องทุกข์เอาผิดพระสงฆ์ นอกจากนี้ ตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2505 แก้ไข 2535 ไม่มีมาตราใดให้อำนาจไว้เช่นกัน

 

ทั้งนี้ ผอ.พศ.อดีตเคยดำรงตำแหน่งในกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) น่าจะหลงลืมไปว่าตนถูกย้ายมารับตำแหน่งเป็น ผอ.พศ.มีหน้าที่สนองงานคณะสงฆ์ อำนาจตรวจค้นฟ้องร้องตามตำแหน่งเดิมมิได้โอนย้ายมาด้วย จึงเป็นการกระทำที่เจตนาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 59 และมาตรา 157 เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด นอกจากนี้ยังเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คณะสงฆ์ 2505 แก้ไขเพิ่มเติม 2535 มาตรา 44 ตรีว่า ผู้ใดใส่ความคณะสงฆ์ไทย อันอาจก่อให้เกิดความเสื่อมเสียหรือแตกแยกจึงร้องเรียนมายัง ป.ป.ช.เพื่อกล่าวโทษ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบและดำเนินการมิชอบด้วยกฎหมาย

 

หลังได้รับข้อมูลข้างต้น ผู้สื่อข่าวติดต่อสอบถามไปยังนายสุทธิ บุญมี ผอ.สำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช.ได้รับคำตอบว่าจากการตรวจสอบช่วงที่ผ่านมาจนถึงวันนี้ (22 เม.ย.) ยังไม่พบว่ามีผู้ใดหรือองค์กรใดเข้ามายื่นร้องเรียนให้ดำเนินการกับพ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่หื์ ผอ.พศ.แต่อย่างใด

 

 

 

 

 

 
 
 
 
 

#ACTองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน

 

Follow LINE: http://bit.ly/2luX9Dt
Follow Facebook: http://bit.ly/2z1Dxvw